ถ้าชอบสูตรนี้ ท่านสามารถบริจาคเงินหรือสิ่งของให้น้องๆบ้านโฮมฮัก โดยดูรายละเอียดการบริจาค Click ที่นี่
เต้าหู้ทอดในบ้านเราส่วนใหญ่จะเห็นเป็นน้ำจิ้มใสรสชาติออกหวานและโรยด้วยถั่วลิสงคั่วบุบ แต่วันนี้จะแนะนำน้ำจิ้มซีอิ้วแบบอินโด ที่มีรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด เข้ากันได้ดีกับเต้าหู้ทอดร้อนๆ ที่รสชาติตัดกันพอดีไม่มีเลี่ยน
Sambal Kecap - Sambal ในภาษาอินโดก็แปลประมาณว่าน้ำพริกในภาษาไทย ส่วน Kecap หรือเคจั๊บก็คือซีอิ๊ว น้ำจิ้มแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะทำไว้ทานคู่กับพวกของทอดๆ ทั้งของว่างและของคาว นอกจากเต้าหู้ทอดแล้ว เอามาทานกับปลาทอด ไก่ทอด หรือไข่เจียวเนี้อสับได้อย่างเข้ากัน
เต้าหู้ ขาวจะแบบแข็งหรือแบบอ่อนกลางๆ ถ้าเต้าหู้แบบอ่อนมากก็ต้องอาศัยความชำนาญในการลงกะทะทอดไม่งั้นจะแตก หมด.... หั่นเต้าหู้ขนาดตามชอบ ถ้าคนชอบกินเต้าหู้ทอดที่นิ่มหน่อยก็หั่นชิ้นใหญแล้วทอดเวลาจะกินก็ค่อยหั่น เป็นชิ้นเล็ก ของเราชอบแบบกรอบหน่อยจะหั่น 8 ชิ้น แต่ถ้าหั่นชิ้นเล็กกว่านี้จะไม่อร่อยแล้ว เพราะพอเต้าหู้เย็นเปลือกด้านนอกจะเหนียว
ตั้งน้ำมันไฟแรง พอน้ำมันเดือดเอาเต้าหู้ลงทอดและหรี่ให้เป็นไฟกลาง พลิกจนเต้าหู้เหลืองกรอบทุกด้าน ตรงนี้จะให้เหลืองแก่ไฟมากแก่ไฟน้อยแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ เสร็จแล้วเอาขึ้นพักในตะแกรงสะเด็ดน้ำมัน
น้ำจิ้มมีส่วนผสมหลักคือซีอิ๊วหวานกับน้ำส้มสายชู ถ้า อยู่ต่างประเทศซีอิ้วหวานอินโดแบบในรูปจะหาซื้อตามร้านเอเชียได้ง่ายกว่า ซีอิ๊วหวานแบบไทย ซีอิ๊วหวานของอินโดรสชาติก็เหมือนซีอิ๊วหวานไทยแต่ของเค้าจะเข้มข้นกว่า
ส่วนผสมน้ำจิ้มซีอิ๊วเคจั๊บ Kecap Sambal:
1)พริกขี้หนู 12 เม็ด
2)กระเทียมกลีบเล็กติดเปลือกนิดหน่อย 1 ช้อนโต๊ะ
3)น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
4)ซีอิ๊วหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
5)น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1)ตำพริกขี้หนูกระเทียมเข้าด้วยกัน
2)ใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย จะได้ตำง่ายพริกขี้หนูจะได้ไม่กระเด็น
3)พอทุกอย่างแหลกได้ที่ก็ใส่ซีอิ๊วหวานและน้ำส้มสายชูลงไป
4)เอาสากยีๆ กับครกให้ทุกอย่างเข้ากัน
พอเสร็จแล้วชิมรสและเติมรส เปรี้ยว หวาน เผ็ดได้ตามชอบ ของเราจะทำให้มีรสเปรี้ยวหวานนำและก็เผ็ดตาม ถ้าต้องการให้ใสก็เติมสายชูและตัดด้วยน้ำตาล
จานนี้ทอดแบบชิ้นใหญ่ด้านนอกกรอบ หั่นมาเต้าหู้ข้างในยังนิ่มอยู่ เต้าหู้ทอดกับน้ำจิ้มซีอิ๊ว จะกินเล่นหรือไว้กินเคียงเป็นกับข้าวก็ได้
-----------------------------------------
If you like this recipe, please donate fund or objects to Bann Home Hug. Click here for donation instruction
เต้าหู้ทอดในบ้านเราส่วนใหญ่จะเห็นเป็นน้ำจิ้มใสรสชาติออกหวานและโรยด้วยถั่วลิสงคั่วบุบ แต่วันนี้จะแนะนำน้ำจิ้มซีอิ้วแบบอินโด ที่มีรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด เข้ากันได้ดีกับเต้าหู้ทอดร้อนๆ ที่รสชาติตัดกันพอดีไม่มีเลี่ยน
Sambal Kecap - Sambal ในภาษาอินโดก็แปลประมาณว่าน้ำพริกในภาษาไทย ส่วน Kecap หรือเคจั๊บก็คือซีอิ๊ว น้ำจิ้มแบบนี้ส่วนใหญ่มักจะทำไว้ทานคู่กับพวกของทอดๆ ทั้งของว่างและของคาว นอกจากเต้าหู้ทอดแล้ว เอามาทานกับปลาทอด ไก่ทอด หรือไข่เจียวเนี้อสับได้อย่างเข้ากัน
เต้าหู้ ขาวจะแบบแข็งหรือแบบอ่อนกลางๆ ถ้าเต้าหู้แบบอ่อนมากก็ต้องอาศัยความชำนาญในการลงกะทะทอดไม่งั้นจะแตก หมด.... หั่นเต้าหู้ขนาดตามชอบ ถ้าคนชอบกินเต้าหู้ทอดที่นิ่มหน่อยก็หั่นชิ้นใหญแล้วทอดเวลาจะกินก็ค่อยหั่น เป็นชิ้นเล็ก ของเราชอบแบบกรอบหน่อยจะหั่น 8 ชิ้น แต่ถ้าหั่นชิ้นเล็กกว่านี้จะไม่อร่อยแล้ว เพราะพอเต้าหู้เย็นเปลือกด้านนอกจะเหนียว
ตั้งน้ำมันไฟแรง พอน้ำมันเดือดเอาเต้าหู้ลงทอดและหรี่ให้เป็นไฟกลาง พลิกจนเต้าหู้เหลืองกรอบทุกด้าน ตรงนี้จะให้เหลืองแก่ไฟมากแก่ไฟน้อยแล้วแต่ความชอบเลยค่ะ เสร็จแล้วเอาขึ้นพักในตะแกรงสะเด็ดน้ำมัน
น้ำจิ้มมีส่วนผสมหลักคือซีอิ๊วหวานกับน้ำส้มสายชู ถ้า อยู่ต่างประเทศซีอิ้วหวานอินโดแบบในรูปจะหาซื้อตามร้านเอเชียได้ง่ายกว่า ซีอิ๊วหวานแบบไทย ซีอิ๊วหวานของอินโดรสชาติก็เหมือนซีอิ๊วหวานไทยแต่ของเค้าจะเข้มข้นกว่า
ส่วนผสมน้ำจิ้มซีอิ๊วเคจั๊บ Kecap Sambal:
1)พริกขี้หนู 12 เม็ด
2)กระเทียมกลีบเล็กติดเปลือกนิดหน่อย 1 ช้อนโต๊ะ
3)น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
4)ซีอิ๊วหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
5)น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1)ตำพริกขี้หนูกระเทียมเข้าด้วยกัน
2)ใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย จะได้ตำง่ายพริกขี้หนูจะได้ไม่กระเด็น
3)พอทุกอย่างแหลกได้ที่ก็ใส่ซีอิ๊วหวานและน้ำส้มสายชูลงไป
4)เอาสากยีๆ กับครกให้ทุกอย่างเข้ากัน
พอเสร็จแล้วชิมรสและเติมรส เปรี้ยว หวาน เผ็ดได้ตามชอบ ของเราจะทำให้มีรสเปรี้ยวหวานนำและก็เผ็ดตาม ถ้าต้องการให้ใสก็เติมสายชูและตัดด้วยน้ำตาล
จานนี้ทอดแบบชิ้นใหญ่ด้านนอกกรอบ หั่นมาเต้าหู้ข้างในยังนิ่มอยู่ เต้าหู้ทอดกับน้ำจิ้มซีอิ๊ว จะกินเล่นหรือไว้กินเคียงเป็นกับข้าวก็ได้
-----------------------------------------
If you like this recipe, please donate fund or objects to Bann Home Hug. Click here for donation instruction
Hope you enjoy the recipe..Bon appetit !
No comments:
Post a Comment