Special Thanks to Bloggang and Pantip Members

ขอขอบคุณ พี่ๆน้องๆชาว Bloggang ที่ให้ความช่วยเหลือโครงการนี้
Blog..ชั้นเอง ของพี่เหมียวที่ช่วยสนับสนุน ทำให้ได้สูตรอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
--------------------------------------------------------------

Thursday, July 22, 2010

Recipe 50* บัตเตอร์คัพเค้กเชอร์รี&ครีมนมสด Butter Cup Cake Sherry & Fresh Cream Milk

By Khun Tip

ถ้าชอบสูตรนี้ ท่านสามารถบริจาคเงินหรือสิ่งของให้น้องๆบ้านโฮมฮัก โดยดูรายละเอียดการบริจาค Click ที่นี่

-----------------------------------------

If you like this recipe, please donate fund or objects to Bann Home Hug. Click
here for donation instruction


http://http//www.bloggang.com/mainblog.php?id=derma&month=12-06-2010&group=10&gblog=9


Cooking For Hope : บัตเตอร์คัพเค้กเชอร์รี&ครีมนมสด


สวัสดีคะ...วันนี้ทิพย์ขอมีส่วนร่วมด้วย

ช่วยทำบุญกับโครงการดีๆแบบนี้ด้วยนะคะแล้วยังไงถ้าทันภายในเวลาที่กำหนดทิพย์จะทำแล้วมาลงสูตร+ขั้นตอนการทำให้เรื่อยๆนะคะสูตรแรกเริ่มกันที่ บัตเตอร์คัพเค้กเชอร์รีครีมนมสด นะคะทำง่ายไม่ยุ่งยากเลยคะ

และอีกอย่างขนมสูตรนี้ไม่หวานเลี่ยนนะคะเพราะได้ความเปรี้ยวของเชอร์รี+กับความหอมมันของเนื้อบัตเตอร์เค้กและตัดกันกับรสของครีมนมสดนุ่มๆ

อร่อยจนเทใจให้อีกแล้วแต่ถ้าใครไม่ชอบเชอร์รี

จะเปลี่ยนเป็นสตอเบอรรี..หรือบลูเบอรี่ก็ได้นะจ๊ะมาม๊ะ

ลงมือกันเลยดีกว่าเนอะ


ส่วนผสมตัวบัตเตอร์เค้กเชอร์รี่

แป้งเค้ก 1 1/2 ถ้วยเบกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชาผงฟู 1 ช้อนชาเนยสด 1/3 ถ้วยมาการีน 1/3 ถ้วย(เปลี่ยนเป็นเนยสดก็ได้)น้าตาลทรายป่น 1/4 ถ้วยไข่ไก่ 1 ฟอง(เฉพาะไข่แดง)ไข่ไก่ 1 ทั้งฟองนมสด 1/2 ถ้วยกลิ่นนมเนย 1 ช้อนชากลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชาเชอร์รี่-สตอเบอรรี-บลูเบอรี่กระป๋องตามชอบเลยคะ 1 ถ้วย


ร่อนแป้ง+ผงฟู+เบกิ้งโซดา 2 ครั้งพักไว้คะตีเนยให้ขึ้นฟู

ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายป่นลงไปพอเข้ากันดีแล้วก็ตามด้วยไข่แดงและไข่ไก่ทั้งฟอง

จากนั้นแบ่งใส่แป้งสลับกับนมสดเลยคะ


ลืมบอกว่า...ทิพย์ใส่กลิ่นทั้งสองผสมกับนมสดไปเลย

เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วก็เทส่วนของเชอร์รีใส่ลงไปคนให้เข้ากันก็เรียบร้อย
เตรียมตักใส่พิมพ์ได้เลย


ตักใส่พิมพ์เลยคะ.........
ใช้ที่ตักไอติมช่วย.....ง่ายดีไม่เลอะและได้ปริมาณที่เท่าๆกัน
ทิพย์ใส่ประมาณ 2 สคูปคะ

เห็นไหม...? เชอร์รีเน้นๆ


ส่งอบ.......ไฟ 160 C
เวลาประมาณ 15 นาที


มาเตรียมส่วนครีมต่อคะ.................

ส่วนผสมครีมนมสด
เนยสดจืดนุ่ม 227 กรัม(แต่ทิพย์ใช้แบบเค็ม)
นมสด 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายป่น 6 ช้อนโต๊ะ
วานิลา 1/4 ช้อนชา
สีผสมตามชอบคะ

**ตีเนยกับน้ำตาลทรายป่นจนขึ้นฟูจากนั้นใส่นมสด+กลิ่นตามลงไป
ตีต่อจนเข้ากันดีคะ....แล้วค่อยๆ..ใส่สีลงไปผสมตามชอบเลย
ใส่ถุงบีบรอเลย


เค้กที่อบออกมาแล้วปล่อยให้เย็น..........
ก็จับมาแต่งหน้าตามชอบเลยคะ

เรียบร้อย............... แล้วค่ะ

กินกะกาแฟ..........ก็อร่อยนะ

สีของเค้กออกเข้มนิดหนึ่ง....เพราะผสมเชอร์รีลงไปด้วยนะคะ
แต่อร่อยนะ


***ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการทำอาหาร-ขนมนะคะ***

Butter Cup Cake Sherry & Fresh Cream Milk


Ingredient (sherry butter cake)
1.cake flour 1½ cup
2.baking soda ½ teaspoon
3.baking powder 1 teaspoon
4.fresh butter 1/3 cup
5.margarines 1/3 cup
6.egg yolk 1 egg
7.egg 1 egg
8.brown sugar ¼ cup
9.fresh milk ½ cup
10.vanilla scent ½ teaspoon
11.milk & butter scent 1 teaspoon
12.ovaltines 75 grams
13.sherry, blueberry or strawberry can 1 cup

Method :
1.Sift the cake flour, baking powder, and baking soda twice and rest them.
2.Whip the butter and slowly pour the brown sugar and egg yolk, then 1 egg later.
3.Pour the shifted flour swop with the milk and vanilla scent or milk & butter scent (or both) until all ingredients are mixed.
4.Pour the sherry (blueberry or strawberry) and mix a while then rest it.
5.Pour the ready sherry butter cake in a tray and bake with 160 Degrees Celsius for 15 minutes.


Ingredient (fresh cream milk)

1.fresh soft butter 227 grams
2.fresh milk 6 tablespoon
3.sugar 6 tablespoon
4.vanilla scent ¼ teaspoon
5.food coloring (up on your favor)

Method :
1.Whip the butter and sugar until it rising up then pour the fresh milk and the vanilla scent later.
2.Keep whipping them on and then slowly pour the food coloring.
3.Pour the ready fresh cream milk into the bag rack.
4.Bring the sherry butter cake out from the oven and leave it cold.
5.Decorate the sherry butter cake with the fresh cream milk up on your favor.
6.Serve with coffee.


Hope you enjoy the recipe..Bon appetit !


Recipe by


Khun Tip

No comments:

Post a Comment